ท่องเที่ยวไทย ก่อน-หลัง ยุคโควิดเป็นอย่างไร

การท่องเที่ยวเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญมากๆของประเทศไทย โดยในปี 2019 ก่อน COVID-19 โจมตีทั่วโลก ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกกว่า 32 ล้านคน เป็นเม็ดเงินในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกว่า 1.57 ล้านล้านบาท ซึ่งการท่องเที่ยวไทยในช่วง 10 เดือนของปี 2019 กำลังอยู่ในช่วงขยายตัวเลยทีเดียวเพราะสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 3.34% เมื่อเทียบกับปี 2018 รายได้จากการท่องเที่ยวมีสัดส่วนถึง 16% ของ GDP เป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 10% ของ GDP คิดเป็น 61% ของรายได้ท่องเที่ยวทั้งหมด การท่องเที่ยวเป็นรายได้ที่ประเทศไทยแทบจะไม่ต้องลงทุนอะไรเลยเพราะใช้สิ่งที่มีอยู่แล้วในประเทศ จึงทำกำไรได้สูง

สำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยมมาประเทศไทย ได้แก่ นักท่องเที่ยวชาวจีน มาเลเซีย อินเดีย ลาว เกาหลีใต้ โดยนักท่องเที่ยวจีน มีจำนวนมากถึง 8.2 แสนคน มากกว่ามาเลเซียและอินเดียรวมกันเสียอีก ซึ่งจากการสำรวจโดยศูนย์ข้อมูลอัจฉริยะประเทศจีน (TCIC) ชาวจีนยังคงจัดให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ที่พวกเขาต้องการเดินทางไปเที่ยวเมื่อวิกฤต COVID-19 สิ้นสุดลง เพียงแต่จะท่องเที่ยวเป็นกลุ่มเล็กลงแทนการท่องเที่ยวกับทัวร์

ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวก็คือนโยบายที่เปิดรับนักท่องเที่ยว และอัตราการฉีดวัคซีนของประชากรในประเทศไทย นักท่องเที่ยวชาวจีนมากกว่า 61% ต้องการตัวเลขที่ยืนยันว่าประชากรไทยได้รับการฉีดวัคซีนแล้วเกินครึ่งประเทศจึงจะตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยว

จังหวัดที่มีรายได้ท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากที่สุด 10 อันดับแรก ในปี 2019 ได้แก่
– ภูเก็ต
– พังงา
– ชลบุรี
– กระบี่
– กรุงเทพมหานคร
– เชียงใหม่
– ประจวบคีรีขันธ์
– พระนครศรีอยุธยา
– เพชรบุรี

สาเหตุที่นักท่องเที่ยวต่างชาติชื่นชอบประเทศไทย
ถ้าลองไล่ดูบล็อกเกอร์ต่างชาติ จะมีสาเหตุหลักๆ ที่พวกเขายกให้ประเทศไทยเป็นประเทศน่าท่องเที่ยว ดังต่อไปนี้

อาหารอร่อย: รสชาติของอาหารไทยเข้มข้นด้วยเครื่องเทศ ทั้งยังมีเมนูที่เผ็ดจัดจ้านซึ่งเป็นที่ถูกใจผู้คนจากทั่วโลก อาหารไทยมีรสชาติที่ต่างกันไปตามแต่ละภาค แถมยังมีขายแทบตลอดทั้งวัน แม้แต่หลังเที่ยงคืนก็ยังมีร้านเปิดหรือมีรถเข็นอาหารร้อนๆ เปิดจำหน่ายอยู่

มีภูมิทัศน์หลากหลาย: ประเทศไทยมีภูมิภาคที่เป็นภูเขาสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินเส้นทางธรรมชาติ สำรวจป่าเขา เล่นซิปไลน์ เลี้ยงช้าง และมีภูมิภาคที่เป็นชายฝั่งทะเล ซึ่งเกาะของไทยมีชื่อเสียงไปทั่วโลก อาทิ พะงัน สมุย พีพี ภูเก็ต ทั้งยังมีบริเวณที่รองรับการลงเล่นน้ำแบบ Snorkel และ Scuba น้ำลึก นอกจากนี้ตอนที่เครื่องบินระหว่างประเทศ Landing ขาเข้า-ขาออก นักท่องเที่ยวก็สามารถแวะเที่ยวกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของเราที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย จากวัดวาอาราม ย่านเมืองเก่า ร้านอาหารแบบ Fine Dining, Rooftop Bar ไปจนถึงชีวิตกลางคืน

ค่าครองชีพไม่แพง: จึงวางแผนการท่องเที่ยวได้สะดวก อุ่นใจว่ามีเงินสำรองเพียงพอหากต้องมีการเปลี่ยนแผนระหว่างการท่องเที่ยว อีกทั้งการเดินทาง 1 ทริปมายังประเทศไทยยังเต็มไปด้วยความคุ้มค่า ใช้เงินไม่มากก็ไปได้หลายจังหวัด ได้สัมผัสทั้งเมือง ภูเขา และทะเลของไทย เข้าถึงประสบการณ์การท่องเที่ยวที่หลากหลายเนื่องจากการคมนาคมราคาไม่แพง

เรื่องความเป็นอยู่สำหรับนักท่องเที่ยว ประเทศไทยมีที่พักราคาประหยัดอย่างโฮสเทลในบริเวณใจกลางเมือง หรือแม้แต่บังกะโลริมหาดราคาหลักร้อยต่อคืน และสิ่งที่ชาวต่างชาติประทับใจกันมากก็คืออาหารของเราราคาไม่แพงเลย หากเทียบแล้วราคาอาหาร 1 จานในต่างประเทศอาจซื้ออาหารของเราได้ทั้งมื้อจากอาหารคาวรวมไปถึงเครื่องดื่มและของหวานด้วย

เที่ยวได้ตลอดทั้งปี: คนไทยอาจจะไม่ชอบใจที่เมืองไทยมีฤดูแบบเดียว คือ ร้อน ร้อนมาก ร้อนมากๆ แต่สิ่งนั้นเป็นข้อเด่นที่ทำให้เมืองไทยเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะนักท่องเที่ยวไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเจอพายุหมุน หิมะตกหนักจนเดินทางไม่ได้ เตรียมตัวมาเที่ยวก็ไม่ต้องจัดเสื้อกันหนาว ผ้าพันคอมา ใส่กางเกงขาสั้นก็เที่ยวทั่วประเทศได้ตลอดปี

ผู้คนเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว: ชาวต่างชาติรู้สึกว่าชาวไทยเป็นมิตรกับพวกเขา และวัฒนธรรมไทยยังเปิดรับ LGBTQ ด้วย อย่างไรถ้าเราเป็นมิตรกับชาวต่างชาติแล้ว ก็อย่าลืมเป็นมิตรกับคนไทยด้วยกันเองด้วยนะครับ

เหล่านี้ก็เป็นสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เมืองไทยขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่น่าเดินทางมาท่องเที่ยวที่ชาวไทยน่าจะช่วยกันรักษาข้อเด่นเหล่านี้ไว้ หรือนำไปพัฒนาต่อ และสำหรับผู้ที่ประกอบธุรกิจอาจจะนำสิ่งเหล่านี้ไปปรับให้เป็นแนวทางสร้างธุรกิจสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะหลั่งใหลเข้ามาเมื่อการเดินทางข้ามประเทศเป็นไปอย่างราบรื่นกว่านี้ก็ได้ครับ

ช่องทางเปิดรับนักท่องเที่ยว เริ่มต้นจาก Phuket Sandbox

หรืออีกชื่อคือ ภูเก็ต โมเดล (Phuket Model) เป็นนโยบายจากรัฐบาลร่วมกับศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 (ศบศ.) ที่จะเปิดจังหวัดภูเก็ต เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจากประเทศความเสี่ยงต่ำและปานกลางซึ่งผ่านการวัคซีนแล้วให้เข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ตได้ เมื่ออยู่ในภูเก็ตครบ 14 วันแล้ว จะสามารถเดินทางไปจังหวัดอื่นๆ ได้ด้วย ซึ่งเมืองภูเก็ตก็มีการเตรียมตัวเพื่อรับนักท่องเที่ยวด้วย เช่น ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคกับบุคลากรที่ทำงานด้านการท่องเที่ยวและผู้คนในท้องที่ ไปจนถึงการทำความสะอาดและปรับปรุงภูมิทัศน์ทั้งหลาย

โมเดลนี้อาจจะใช้กับจังหวัดอื่นๆ อีก อาทิ เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ จังหวัดพังงา พัทยา เป็นต้น เชื่อว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเยียวยาการท่องเที่ยวในประเทศไทยและจะขยายช่องทางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามความเป็นไปได้ จนกว่าสถานการณ์โลกจะกลับมาเป็นปกติ

Contributor

Karn Triamsiriworakul

Learned about reasoning from the school of law but landed job in marketing field to work toward his interest in art and psychology.