อยากเป็นบล็อกเกอร์ต้องเริ่มจากอะไร? คุยกับ มิ้นต์ ณิศรา บล็อกเกอร์ท่องเที่ยว เจ้าของเพจ Travelerspulse

“ตอนเด็กๆ เราจำได้ว่า เวลาที่มีคนมาถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร ในตอนนั้นเราก็มีแต่อาชีพสุดคลาสสิกแทนคำตอบอยู่ในหัว แบบอยากเป็นคุณครูอนุบาลหรืออยากเป็นหมอ มันเป็นยุคที่คนยังไม่รู้จักคำว่า YouTuber หรือ Influencer เลยซะด้วยซ้ำ และมิ้นต์เชื่อว่าคนรุ่นๆ มิ้นต์ที่จับพลัดจับผลูมาทำอาชีพตรงนี้ได้ก็คือเป็นกลุ่มที่อยากทดลองอะไรใหม่ๆ แพลตฟอร์มใหม่ๆ แล้วเกิดคลิกกันขึ้นมาเลยไปได้ยาวๆ แต่ในทางกลับกันถ้าไปถามน้องๆ ตอนนี้ หลายคนคงมีคำตอบในใจที่แน่วแน่เลยว่าอาชีพในฝันของเขาคือการเป็น YouTube Personality หรือ KOL ชื่อดัง”

นี่คือคำตอบจากคุณ มิ้นต์ – ณิศรา สิทธาธิการเวชช์ Blogger เจ้าของเพจท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ในเฟซบุคที่มีชื่อว่า Travelerspulse เมื่อเราได้คุยกับเธอในเรื่องของเส้นทางสู่การเป็นบล็อกเกอร์ที่มีคนติดตามมากกว่า 50,000 คนว่าเป็นมาอย่างไร มิ้นต์เล่าให้เราฟังว่าการที่เธอมาอยู่ในจุดนี้ได้คือเรื่องบังเอิญ แต่ภายใต้ความบังเอิญนั้นก็คือความสม่ำเสมอในการผลิตคอนเทนต์และใจรักที่จะถ่ายทอดเรื่องราวผ่านรูปภาพสวย ๆ จากทริปรอบโลกและการเขียนที่มีเอกลักษณ์ของเธอ

“เราเริ่มทำเพจนี้มาได้ประมาณ 4 ปีแล้ว ซึ่งระหว่างนี้เราก็ทำงานสาย Editor เป็นงานประจำไปพร้อมกันมาโดยตลอด จุดเริ่มต้นของเพจมาจากการที่มิ้นต์เป็นคนชอบเดินทาง มีเวลาว่างเมื่อไหร่จะเริ่มหาทริปไปละ และแรงสนับสนุนก็คือครอบครัวกับเพื่อนๆ ที่หลงใหลในการท่องเที่ยวเหมือนๆ กัน ทำให้เวลาที่เราออกเดินทางเมื่อไหร่ พอกลับมาจะมีรูปติดกล้องมาด้วยเป็นหลายพันเลย และเราก็ไม่มีที่สิงสถิตย์ให้รูปเหล่านั้นแบบเป็นหลักเป็นแหล่ง ก็เลยเริ่มต้นจากการเปิด Instagram ก่อนเพื่อที่จะทำเป็น Gallery ให้ตัวเองดู ไม่แบ่งใครด้วยนะตอนแรก ใช้งาน IG เหมือนกับเป็น Folder เก็บรูปสักอย่างหนึ่งเลย (หัวเราะ)

แต่พอเริ่มมีคำถามจากทางบ้าน มีเพื่อนๆ เริ่มส่งมาถามหลังไมค์เวลาเห็นรูปใน IG เราว่าจะไปโตเกียวต้องไปที่ไหนบ้าง ไป Norway ขึ้นรถไฟเริ่มจากเมืองไหนไปเมืองไหน ไป Oman ต้องหาไกด์จากอะไร และอื่นๆ อีกมากมาย เราก็เลยเริ่มเปิด Page ใน Facebook เพื่อที่จะเก็บข้อมูลการเดินทางจากแต่ละทริป เพราะว่าใน Facebook เราสามารถเขียนยาวๆ ได้ ต่อยอดจาก Gallery รูปเป็น Online Diary ละ แล้วก็เริ่มเปิดเพจระหว่างที่เดินทางในโอมานด้วยนะ ไม่รู้นึกครึ้มอะไร (หัวเราะ) Content แรกๆ ก็เลยถ่ายทอดได้แบบสดใหม่มากเพราะเรายังอยู่ที่นั่น ยังตื่นตาตื่นใจกับการเดินทางอยู่ แล้วก็ Post ขึ้นเลยทันทีด้วยความกลัวลืม และสาเหตุนี้มันเลยน่าจะเป็นคอนเทนต์ที่ไปโดนใจหลายคน เลยทำให้คนค่อยๆ เริ่มเข้ามาติดตาม จากที่ตั้งใจจะทำเล่นๆ พอ Followers แตะหลักหมื่นก็คือต้องจริงจังกับการทำเพจไปโดยปริยาย”

สิ่งสำคัญที่บล็อกเกอร์ทุกคนควรมี ในความคิดเห็นของคุณมิ้นต์คืออะไร?

มิ้นต์ว่าอย่างแรกที่ทุกคนควรตั้งต้นด้วยก็คือความอยากเล่า ความอยากแบ่งปันประสบการณ์หรือสิ่งที่น่าสนใจอะไรสักอย่างที่เราได้ไปเจอมาตามรูปแบบที่เราถนัด ไม่ว่าจะเป็นการเขียน ภาพถ่าย หรือการทำวีดีโอขึ้นมาสักตัว ในความคิดของมิ้นต์ Passion ตรงนี้มันจะเป็นตัวที่เติมไฟให้เราผลิต Content ที่สดใหม่ออกมาได้เรื่อยๆ ซึ่งนอกจากจุดนี้แล้วสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ Skill ของการสื่อสาร เล่าเรื่องออกมายังไงให้ทุกคนเข้าใจตรงกันได้ จับความสนใจของคนอย่างไรให้เขารับสารที่เราต้องการจะส่งตั้งแต่ต้นจนจบ ลำดับเรื่องยังไงให้ไม่ชวนงง และทำอย่างไรให้คอนเทนต์ของเรามี ‘ลายเซ็น’ ที่ไม่เหมือนใคร

ในโลกที่เต็มไปด้วย Influencers เราค้นหาตัวตนบนโลกออนไลน์อย่างไรให้เจอ?

“เป็นคำถามที่หลายคนถามมามากๆ ว่าถ้าอยากเริ่มต้นทำเพจต้องหา Identity ให้กับตัวเองอย่างไรดี ซึ่งขอออกตัวก่อนเลยว่าเราอาจจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำแนะนำแบบฟันธงได้แบบฉับๆ แต่ว่าที่อยากแชร์จากประสบการณ์ของเราก็คือกำหนดแนวทางอะไรก็ได้ที่รู้สึกว่าเราสบายใจกับตัวเองที่จะทำสิ่งนั้น และเป็นเวย์ที่เรา ‘เชื่อ’ ว่าจะทำแบบนี้ต่อไปได้เรื่อย ๆ ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างความสม่ำเสมอในสิ่งที่เราพยายามจะสื่อสารกับคนที่ติดตาม

ยกตัวอย่างเช่นเพจของมิ้นต์นี่แหละ พอเริ่มจริงจังกับมันเราก็มาลองนั่งคิดต่อและวาง Concept ว่า Travelerspulse คืออะไร ซึ่ง Step นี้มันก็ใช้เวลาในการพัฒนาและลองผิดลองถูกกับมันอยู่หลายครั้ง มีบางครั้งที่เรารู้สึกว่าเขียนสั้นๆ กระชับ เน้นรูปสวยๆ ก็พอ แต่พอลองทำดูแล้วมันขัดกับใจตัวเอง หรือว่าหลายครั้งที่มิ้นต์เถียงกับไอเดียในหัวที่พยายามบอกว่าลองเปลี่ยน Text ที่อยู่บนรูปเปิดเป็นภาษาไทยดูไหมจะได้เข้าถึงคนได้มากขึ้น แต่พอได้ลองปรับลองลงมือทำดูจริงๆ เราจะค้นพบว่าอะไรที่รู้สึกใช่กับตัวเองที่สุด พอเจอแล้วให้ปักหมุดไว้เลย สร้างเป็นกฎว่าทุกครั้งที่จะสร้างคอนเทนต์ใหม่ๆ มันจะต้องอยู่ในกรอบคร่าวๆ แบบนี้นะ ซึ่งพอเราทำบ่อยๆ จนกลายเป็นความ Consistent แล้ว ครั้งต่อไปเวลาที่คนเห็นรูปโทนสีแบบนี้ วิธีการเล่าเรื่องแบบนี้ ยังไม่ต้องดูชื่อเพจหรือชื่อช่องเลย ก็สามารถบอกได้แล้วว่าเป็น Content จากใคร”

ทำเพจควบคู่ไปกับงานประจำ มีเทคนิคการแบ่งเวลาที่สามารถแชร์ให้กับชาว UNBOX นำไปลองใช้บ้างไหม?

“ด้วยความที่มิ้นต์ทำหลายอย่าง ทั้งงานประจำ รับงานเขียน Freelance งานในอินสตาแกรมส่วนตัว และทำเพจไปด้วยกันทั้งหมด การแบ่งเวลาคือเรื่องที่สำคัญมาก และเราก็ไม่สามารถบอกได้เต็มปากเต็มคำว่าเราทำได้ดีแล้ว (หัวเราะ) แต่พยายามจะทำให้ดีขึ้นในทุกๆ วันค่ะ เทคนิคของเราจะมีอยู่ประมาณ 3 ข้อก็คือ

ข้อ 1 – เวลาที่เราตกลงรับงานใดงานหนึ่ง พยายามหางานที่ยังพอมีช่องว่างให้เราไปทำงานหมายเลข 2, 3 และ 4 ได้ อย่างเวลาที่มิ้นต์ย้ายงานประจำ ด้วยความที่เรามีเพจเป็นเหมือนลูกน้อยที่ทิ้งไปไม่ได้ เราเลยเลือกสมัครงานโดยดูจาก Condition ที่โอเคกับตัวเรา อย่างเช่น ถ้าทำงานนี้แล้วเรายังสามารถ Spare เวลาว่างไปทำงานอื่นได้ มีวันลาพอให้เราได้ออกเดินทางบ้าง ส่วนวัฒนธรรมองค์กรก็สามารถรับได้กับการที่เราทำเพจควบคู่ไปด้วย ซึ่งพอเรากาง Condition ทั้งหมดนี้ให้ตั้งแต่เริ่มต้นและสื่อสารอย่างชัดเจน มันก็ทำให้เราแพลนชีวิตได้ง่ายขึ้น แล้วก็ช่วยตัดความลำบากใจหลายอย่างที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้เช่นกัน

ข้อ 2 – รู้ลิมิตของตัวเองว่าตรงไหนควรหยุดรับงานเพิ่ม จุดไหนที่เริ่มไม่ Balance เพราะเริ่มมีงานบางอย่างที่กินเวลางานส่วนอื่นๆ ละ เมื่อเรารู้ว่ามันมาถึงจุดที่รับมือไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องรีบหาทางแก้ไขปัญหานั้นในทันที อย่างเช่น ช่วงไหนที่งานในเพจเริ่มล้นมือและเริ่มไปเบียดเบียนการทำงานประจำที่เป็น Priority ของเรา ก็คือช่วงที่ต้องหาน้อง Freelance มาช่วยในการจัดแจงงานบางส่วน ซึ่งถ้าปล่อยให้จุดนี้เรื้อรัง มันจะไม่ Healthy กับตัวเราเองรวมไปถึงผลงานที่ออกมาด้วย

ข้อ 3 – Work Hard! ทำงานให้หนักพอ หลายครั้งเราชอบอ้างกันว่าทำงานไม่ทันเพราะไม่มีเวลา แต่จริงๆ แล้วเราแอบเก็บเวลาบางส่วนไปอู้ซึ่งตัวมิ้นต์เองก็เป็น (หัวเราะ) เราเลยรู้สึกว่าการแบ่งเวลาที่ดีจะเกิดขึ้นได้เมื่อเราทำงานให้หนักจริงๆ มันเหนื่อยมากแบบน้ำตาซึมเลยแหละ แต่สุดท้ายแล้วมิ้นต์เชื่อว่าทุกอย่างมันจ่ายคืนมาเป็นฟีดแบคที่ดี เป็นคำชมจากคนที่ติดตาม เป็นสถิติที่เราสามารถทุบได้ หายเหนื่อยเลยนะและเป็นแรงผลักดันที่ดีให้กับเราสุดๆ ไปเลยล่ะ”

สุดท้ายนี้ อยากให้ฝากถึงคนที่อยากลองเริ่มต้นทำเพจของตัวเอง หรือใครที่อยากลองเริ่มเข้าสู่วงการบล็อกเกอร์หน่อย มีคำแนะนำสำหรับพวกเขาไหม

“เวลามีใครมาถามหรือขอคำแนะนำ เราจะบอกให้พวกเขาลองทำเลย เพราะจริงๆ แล้วตอนเริ่มแรก ตัวมิ้นต์เองก็ได้เรียนรู้จากการลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ เหมือนกัน ซึ่งเราเชื่อว่าถ้าได้ลองแล้ว ประสบการณ์ทั้งหมดจะทำให้เราได้เจอทางของตัวเองอย่างแน่นอน แต่ที่สำคัญที่สุดคือความตั้งใจ ไม่อยากให้คนคิดอยากผันตัวมาเป็น Blogger เพราะฉันอยากได้เงินก้อนโตๆ และมีคน Offer ให้ไปเที่ยวฟรี แต่อยากให้เริ่มต้นด้วยความอยากที่จะเป็นคนเล่าเรื่องและสนุกกับบทบาทนี้

ถ้าตั้งใจ มุ่งมั่น และขับเคลื่อนตัวเองด้วย Passion ไปได้เรื่อยๆ มิ้นต์เชื่อว่าใครๆ ก็สามารถผลิตผลงานดีๆ ที่มีคนคอยติดตามได้อย่างแน่นอนค่ะ”

สามารถติดตาม Content ของคุณมิ้นต์-ณิศรา ได้ทางเพจ Travelerspulse และอินสตาแกรม @mint.nisara

Contributor

Nisara Sittatikarnvech

A full-time Content Editor, part-time travel and lifestyle blogger. Mint has found her passion to become a story teller through the use of text, images and videos since she graduated from Faculty of Arts, Chulalongkorn University. Moving from the status of a Junior Writer to Social Media Editor at CLEO magazine to Content Editor at LINE TODAY, she has learned that ‘content creation’ is what she lives for. She also founded a travel blog called Travelerspulse where she continues to share her stories from amazing journeys around the globe!

Contributor

Share this post with your friends

More Articles

blog
Karn Triamsiriworakul

ชมบ้านสวย จิบดราม่า กับเรียลลิตี้โชว์ปนโฆษณา ‘Selling Sunset’

ถ้าพูดถึงโฆษณาแล้ว เรามักจะนึกถึงโฆษณาที่สั้น กระชับได้ใจความ ผู้ชมจะใช้เวลาไม่มากในการรับสารและจดจำสิ่งที่เราต้องการจะโฆษณาได้ แต่ The Oppenheim Group Real Estate

Read More »
blog
Supat Imyoo

Zapier เครื่องมือทำ Automation

ในสายงานการตลาดนั้น วันๆหนึ่งเรามีสิ่งที่ต้องทำมากมากมาย ซึ่งสิ่งที่น่าเบื่ออย่างหนึ่งคืองานที่เป็น Routine หรือว่างานที่ทำซ้ำไปซ้ำมา เช่น ทำ Report, Export ข้อมูล

Read More »
blog
Nisara Sittatikarnvech

การฟื้นคืนชีพของ ‘ตู้ถ่ายสติกเกอร์ เทรนด์สุดฮิตที่เราคิดถึงจากยุค 90

ในสมัยที่สยามสแควร์ยังคงมีน้ำพุเซ็นเตอร์พอยต์ และห้างเซ็นทรัลเวิลด์ที่ยังคงถูกเรียกในชื่อเดิมว่า “World Trade Center” ท่ามกลางวัฒนธรรมของกลุ่มวัยรุ่นที่เกิดขึ้นมากมายในย่านนี้ เคยมีเทรนด์หนึ่งที่ฮิตแซงแถวมากๆ ในขณะนั้น นั่นก็คือ ‘ตู้ถ่ายสติกเกอร์’

Read More »
Comodo SSL