ClassPass พาสปอร์ตสำหรับคนชอบออกกำลังกาย

สำหรับคนที่ไม่รู้จัก ClassPass มาก่อน

ClassPass คือแอปพลิเคชั่นที่เราสามารถสมัครแพ็คเกจสมาชิกรายเดือน เพื่อรับเครดิตในแอปฯ มาใช้จองคลาสออกกำลังกายออนไลน์และออฟไลน์ได้ ยิ่งสมัครแพ็คเกจใหญ่ ยิ่งได้เครดิตเยอะ เอามาจองคลาสต่อเดือนได้มากขึ้นเท่านั้น โดยมีฟิตเนสและสตูดิโอออกกำลังกายมากมายทั้งแบบฟิตเนสทั่วไป, Cross-Fit, สตูดิโอโยคะ และอีกมายมายที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ ClassPass ซึ่งผู้ที่สมัครสมาชิกสามารถเลือกใช้เครดิตเพื่อเข้ารับบริการได้ทั่วโลก

ราคาเครดิตของคลาสออกกำลังกายใน ClassPass จะแตกต่างกันไปตามคอร์ส สถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวก การเลือกคลาสเข้าเรียนจึงไม่ต่างกับการเลือกช้อปปิ้งตามเครดิตที่มี ส่วนเครดิตที่ใช้ไม่หมด จะสามารถทบไปยังเดือนต่อไปได้

(สามารถใช้งาน ClassPass ได้จากแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนและ PC)

สิ่งที่ทำให้ธุรกิจ ClassPass เป็นที่น่าสนใจ
ClassPass เป็นแอปฯ จากประเทศสหรัฐอเมริกา ให้บริการตั้งแต่ปี 2013 ในชื่อ Classivity และตั้งแต่ปรับแบรนด์เป็น ClassPass บริษัทระดมทุนได้มากกว่า 85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายฐานการให้บริการไปถึง 20 ประเทศทั่วโลก และมีฟิตเนสที่เข้าเป็นพาร์ทเนอร์มากกว่า 20,000 แห่ง ซึ่งตอนนี้ฟิตเนสสตูดิโอ 146 แห่งมาจากประเทศไทย (ข้อมูลเมื่อเดือนกันยายน 2020) ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่ามากกว่า 610 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีการจองคลาสผ่าน ClassPass ไปแล้ว มากกว่า 100 ล้านครั้ง นับแต่ปี 2013

บางคนอาจคุ้นเคยกับ GuavaPass ซึ่งเป็นแอปฯ ลักษณะคล้ายกันของเอเชีย และบางคนก็คงทราบแล้วว่า GuavaPass ถูก ClassPass ซื้อกิจการไปแล้วตั้งแต่ปี 2019

(Payal Kadakia และ Mary Biggins สองสาว Founders ของ ClassPass)

ข้อดีของ ClassPass
ClassPass ช่วยจัดการปัญหาของธุรกิจฟิตเนส สตูดิโอออกกำลังกาย ทั้งในฝั่งของผู้ประกอบการและผู้รับบริการ โดยอำนวยความสะดวกในการดึงลูกค้านักออกกำลังกายไม่ว่าขาจรหรือขาประจำในบริเวณใกล้ๆ สตูดิโอแต่ละแห่ง ให้เข้ามาเติมคลาสออกกำลังกายที่ยังว่าง เป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และขณะเดียวกันผู้รับบริการก็มีอิสระในการเลือกคลาสฟิตเนสให้กับตัวเองมากขึ้น สามารถเข้าฟิตเนสได้ในหลายที่ ไม่ต้องยึดอยู่กับสมาชิกฟิตเนสที่ใดที่หนึ่ง ซึ่งค่อนข้างสะดวกมากสำหรับคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆเนื่องจากไม่สามารถไปรับบริการที่ใดที่หนึ่งเป็นประจำ หรือบางคนอาจจะอยากทดลองออกกำลังกายในรูปแบบที่ต่างกันในแต่ละวัน เช่น Yoga, Pilates, Cycling ก็ใช้ ClassPass เป็นพาสปอร์ตให้พวกเขาเข้าถึงฟิตเนสสตูดิโอได้มากมาย ไม่ต้องไล่จ่ายค่าสมาชิกรายเดือนหรือรายปีให้กับแต่ละที่

ปัจจุบัน ClassPass ให้สิทธิ์ในการเข้าใช้บริการฟิตเนส หรือจองคลาสในฟิตเนส คลาสออนไลน์ คลาสแบบ Livestream และนอกจากนี้ยังมีบริการสปาเพื่อสุขภาพและความงามอีกด้วย

ClassPass ทำเงินได้อย่างไร?
ClassPass มีธุรกิจส่วนที่เป็น B2B และ B2C โดยมี Corporate Wellness Program ให้บริษัทเลือกซื้อไปเป็นสวัสดิการด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ให้กับพนักงาน เป็นผลดีทั้งแก่บริษัทและพนักงาน บริษัทได้สนับสนุนให้พนักงานออกกำลังกาย ผ่านการอำนวยความสะดวกด้วย ClassPass ซึ่งพนักงานที่สุขภาพดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีท้ายที่สุดแล้วจะได้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยรักษาผลประโยชน์ของบริษัทในอีกทาง

สำหรับแบบผู้ใช้รายบุคคล ClassPass มีแพ็คเกจให้เลือกราคาตั้งแต่ 690 บาทต่อเดือน สำหรับ 10 เครดิต เพื่อจอง 3 คลาส ไปจนถึง 3,510 บาทต่อเดือน 65 เครดิต เพื่อจอง 19 คลาส ซึ่งฟิตเนสที่มีให้บริการก็มีหลากหลาย อาทิ Absolute You, Physique 57, BASE ไปจนถึงยิมมวยไทย สามารถเช็กราคาและสถานที่ที่มีให้บริการได้จากลิงก์นี้ https://classpass.com/search/thailand/

ClassPass เป็นแอปพลิเคชั่นด้านออกกำลังกายที่ชาว UNBOX BKK เห็นว่าทั้งด้านฟังก์ชั่นและวิธีดำเนินการของพวกเขามีความน่าสนใจจึงนำมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ หากใครมีแอปพลิเคชั่นไหนที่อยากให้พวกเรารีวิวให้ก็แนะนำกันเข้ามาได้นะครับ 😊

Contributor

Karn Triamsiriworakul

Learned about reasoning from the school of law but landed job in marketing field to work toward his interest in art and psychology.

Contributor

Share this post with your friends

More Articles

blog
Karn Triamsiriworakul

เราเป็น Content Creator (ผู้สร้าง Content) ที่ดี หรือเปล่า?

Content ของเราดีแล้วหรือยัง? เชื่อว่าเป็นคำถามที่นักสร้าง Content หลายท่านต้องเคยถามตัวเองบ้าง และพากันสงสัยว่าจะเอาอะไรมาเป็นเกณฑ์ชี้วัดของการเป็น Content Creator ที่ดี พวกเราชาว

Read More »
blog
Jinsiree Palakawongsa Na Ayudthaya

ฉลอง Pride Month ด้วย 4 แคมเปญโฆษณาจากแบรนด์ดังที่ชูธงซัพพอร์ต LGBT สุดแขน!

เดือนมิถุนายนถูกกำหนดให้เป็น Pride Month ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองให้กับความสวยงามของความหลากหลายทางเพศ ซึ่งนอกจากการเคลื่อนไหวขององค์กรต่าง ๆ ที่รณรงค์เรื่อง LGBT อยู่แล้ว เรายังได้เห็นการเสริมทัพจากแบรนด์ดังอีกมากมายที่คว้าเอาช่วงเวลานี้มาใช้เป็นพื้นที่โฆษณา

Read More »
blog
Jinsiree Palakawongsa Na Ayudthaya

เมื่อที่ทำงานกลายเป็น Hybrid กับหลายเรื่องที่ต้องคิดและอาจมองข้าม

ไม่ว่าสถานการณ์โควิดจะคลี่คลายลงหรือไม่ แต่ออฟฟิศหลายแห่งได้เริ่มปรับรูปแบบการทำงานเป็นแบบไฮบริดถาวร กล่าวคือมีการผสมผสานกันระหว่างการทำงานแบบออนไลน์ และเข้าออฟฟิศ โดยเมื่อพูดถึงความไฮบริดนี้ หลายคนอาจจะให้ความสำคัญแค่เรื่องเทคโนโลยีเป็นสำคัญ แต่แท้จริงแล้ว ในด้านวัฒนธรรมองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความพึงพอใจให้แก่พนักงาน และความละเอียดอ่อนทางด้านการจัดสรรงาน

Read More »
Comodo SSL