ความสำคัญของ First-party Data

เริ่มที่การทำความเข้าใจก่อนว่าประเภทของข้อมูล (Data) ที่เรามีกันอยู่ในโลกออนไลน์นั้นมี 3 กลุ่มใหญ่นั่นคือ:

  1. First-party data
  2. Second-party data
  3. Third-party data

First-party Data คืออะไร?
First-party Data คือ คือข้อมูลของลูกค้าที่บริษัทจัดเก็บและถือข้อมูลนี้โดยตรง โดยข้อมูลนั้นถูกจัดเก็บผ่าน Platform ต่างๆที่บริษัทมี ไม่ว่าจะเป็น Website, LINE หรือข้อมูลจากฟอร์มที่ให้ลูกค้ากรอกทั้งออนไลน์และออฟไลน์

ตัวอย่างข้อมูล: ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ อีเมล เบอร์โทร, พฤติกรรมการใช้งาน Website และ Application, ข้อมูลการสั่งซื้อ, Cookies บนเว็บไซต์ และอื่นๆอีกมากมาย

ตัวอย่างการใช้งาน: การส่ง SMS หาลูกค้าเพื่อแจ้งโปรโมชั่น, การอัพโหลดข้อมูลลูกค้าผ่าน Facebook Ad และทำโฆษณาหาลูกค้ากลุ่มนั้นๆ

Second-party Data คืออะไร?
Second-party Data ง่ายๆเลยก็คือ First-party Data ของบริษัทอื่นที่เรามีสิทธิเข้าใช้ผ่านข้อตกลงต่างๆที่มีระหว่างบริษัท ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็น Partner กัน เช่น ถ้าลูกค้าให้ข้อมูลส่วนตัวกับร้าน 7-11 (บริษัท CP All) ก็เป็นไปได้ว่าบริษัทในเครือซีพีอื่นๆจะได้ข้อมูลนี้ไปด้วย

ตัวอย่างข้อมูล: เหมือนกับ First-party Data

ตัวอย่างการใช้งาน: เนื่องจากบริษัทที่เป็น Partner กับบริษัทที่ได้ First-party Data จะมีสิทธิ์เห็นข้อมูลและเบอร์โทรของลูกค้าเหมือนกัน ดังนั้นเบอร์โทรศัพท์ของเราอาจถูกส่งต่อให้กับ Operator ค่ายโทรศัพท์ บริษัทประกัน หรือ SMS Spam ก็ได้ ถ้าโชคดี บริษัทเหล่านั้นอาจได้ลูกค้าใหม่จากการโทรศัพท์ แต่ถ้าโชคไม่ดีก็จะโดน Block เหมือนที่คนส่วนใหญ่ทำ

Third-party Data คืออะไร?
บริษัทที่จัดทำข้อมูลผ่านการรวบรวมข้อมูลจากหลายๆแหล่งมาประกอบกันเป็นข้อมูลเดียว และจำแนกข้อมูลเป็นกลุ่มๆ เพื่อที่จะขายข้อมูลเหล่านั้นต่อให้กับบริษัทอื่นๆ ข้อมูลเหล่านี้เป็นที่นิยมมากในกลุ่มนักการตลาด เนื่องจากเป็นข้อมูลที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ สามารถเอามาทำการตลาดได้อย่างตรงจุด ที่สำคัญอาจประหยัดเงินได้มากกว่าการทำ Research เองด้วย แค่จ่ายเงินซื้อก็ได้แล้ว

ตัวอย่างข้อมูล: ข้อมูลและพฤติกรรมที่เก็บแบบหลวมๆจากหลากหลายแหล่ง

ตัวอย่างการใช้งาน: บริษัทเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพต้องการทำโฆษณา จึงซื้อข้อมูลของผู้ที่สนใจเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพผ่านบริษัทข้อมูล และทำข้อมูลนั้นมาทำโฆษณาต่อ

ทำไม First-party Data จึงสำคัญ?
เนื่องด้วย พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPR/GDPA) ที่ทำให้การส่งต่อข้อมูลของผู้ใช้งานมีความซับซ้อนและลำบากขึ้นมาก และอาจสร้างปัญหาให้กับบริษัทหากผู้ใช้งานไม่ได้ให้ความยินยอมในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งทำให้ Second-party และ Third-party Data ได้รับผลกระทบอย่างสูง ในทางกลับกัน First-party Data ที่ทางบริษัทได้รับความยินยอมจากผู้ใช้งานให้จัดเก็บและใช้งานได้อย่างเต็มที่ และที่สำคัญคือไม่มีค่าใช้จ่าย เนื่องจากเป็นข้อมูลของบริษัทเราเอง

นอกจากนี้เมื่อเปรียบเทียบความสำคัญระหว่างข้อมูลแต่ละประเภทแล้ว พบว่า First-data Party มีความสำคัญมากที่สุด เพราะเป็นข้อมูลลูกค้าเราโดยตรง แต่จำนวนที่เรามีอาจจะน้อยมากๆ ในทางกลับกัน Third-party Data ที่มีจำนวนมาก แต่กลับให้ Value กับบริษัทได้น้อยกว่า จึงน่าจะเหมาะกับการใช้เพื่อโฆษณาประเภท Awareness มากกว่า

ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมด ธุรกิจและแบรนด์ควรเริ่มวางแผนกันภายในถึงวิธีการที่ได้มาของ First-party Data และบริหารการใช้ข้อมูลเพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

Contributor

Share this post with your friends

More Articles

blog
Jinsiree Palakawongsa Na Ayudthaya

COVID-19 กับความเครียดของผู้บริโภค

ปฏิเสธไม่ได้ว่าจาก COVID-19 ที่อยู่กับพวกเรามาร่วมปี ก่อให้เกิดปัญหาในการทำงาน การใช้ชีวิต และแน่นอนว่ารายได้ที่ลดลงในหลายครัวเรือน จากการสัมมนา DAAT DAY 2021

Read More »
blog
Unbox Team

แบรนด์จะขอรีวิว 5 ดาวจากลูกค้าได้อย่างไรบ้าง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทรนด์การตลาดในปัจจุบันไม่ได้เน้นแต่การโปรโมตคุณสมบัติของสินค้าให้ดูดีเพียงอย่างเดียว แต่ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการความจริงใจและความน่าเชื่อถือของแบรนด์จากคำบอกเล่าของผู้ใช้งานจริงมากขึ้นด้วย จะเห็นได้จากผลสำรวจของเว็บไซต์ BrightLocal ในปี 2022 ที่กว่า 98% อ่านรีวิวสินค้าไม่ว่าจะซื้อหรือไม่ก็ตาม และจากเว็บไซต์

Read More »
Comodo SSL