ทำความรู้จัก Dating App หรือแอพหาคู่ ทำให้สมหวังได้จริงไหม?

คำว่า “App หาคู่” คิดว่าหลายๆ คนคงเคยได้ยินกัน หรือคุ้นเคยกันบ้าง ไม่มากก็น้อยในยุคดิจิทัลทุกวันนี้ บางคนอาจจะเคยลองใช้ บางคนอาจจะไม่เคยลอง แต่สิ่งที่ทุกคนน่าจะสงสัยกันมากที่สุดคือการหาคู่ผ่านโลกออนไลน์จะทำให้สมหวังได้จริงหรือ? และผลที่ได้จะดีหรือไม่ 🤔

เชื่อว่าเราเคยได้ยินเรื่องราวของการหาคู่ออนไลน์ที่ฟังแล้วก็รู้สึกกลัวและไม่น่าไว้ใจกับ App หาคู่เหล่านี้พอสมควร บ้างก็โดนหลอก บ้างก็ไม่คิดจริงจัง บ้างก็คุย ๆ อยู่แล้วหาย ทว่าในความจริงแล้วการหาคู่ออนไลน์ก็ไม่ต่างกับการหาคู่ทั่วไปที่มีทั้งกรณีที่ไม่ดีและกรณีที่ประสบความสำเร็จ App หาคู่เป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยให้เราได้ค้นพบและสื่อสารกับคนที่มีความต้องการคล้ายกัน ซึ่งมีหลากหลายกรณีเช่น คนที่อยากมีคนคุยแก้เหงา คนที่อยากมีแฟน หรือแม้กระทั่งคนที่อยากลงหลักปักฐานแต่งงานเลยก็มี

สนใจอยากลองเล่น ต้องเริ่มต้นอย่างไร?
ถามตัวเองก่อนว่าต้องการใช้แอพนี้เพื่ออะไร จากนั้นต้องสัญญากับตัวเองว่าจะต้องใช้วิจารณญาณในการคุยไม่ว่ากับใครก็ตาม เพราะเราไม่อยากให้คุณต้องเจอกรณีที่โดนหลอก หรือโดนเอาเปรียบในทุกแง่มุม เมื่อตัดสินใจได้แล้วก็เริ่มดาวน์โหลดแอพมาไว้ในเครื่องโทรศัพท์ของเรากันเลย!

มีแอพไหนบ้าง?
ที่จริงแอพประเภทนี้มีมากมายหลายเจ้า แต่ตัวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด น่าจะหนีไม่พ้น 5 แอพด้านล่างนี้

  • Tinder
  • Bumble
  • Coffee Meets Bagel
  • OkCupid
  • Facebook Dating

ความแตกต่างของ Application 5 ตัวนี้

tinder

1. Tinder
เป็นแอพหาคู่ที่เชื่อว่าดังมากที่สุดไม่ว่าจะที่ไทย หรือต่างประเทศ เพราะการใช้งานง่าย ชอบใครก็ปัดขวา (Swipe Right) ไม่ชอบใครก็ปัดซ้าย (Swipe Left) และเมื่อทั้ง 2 ฝ่าย Swipe Right ซึ่งกันและกัน คุณก็จะสามารถเริ่มคุยกันได้

bumble

2. Bumble
เป็นอีกแอพที่กำลังมาแรง และก่อตั้งโดยผู้หญิง และออกแบบระบบให้เป็นแบบ Female-focused สำหรับ Bumble เอกลักษณ์ของแอพนี้คือถ้า Match ตรงกัน ฝ่ายที่สามารถเริ่มคุยก่อนได้คือผู้หญิงเท่านั้นและต้องเป็นฝ่ายเริ่มคุยภายใน 24 ชั่วโมงหลังจาก Match จากนั้นฝ่ายชายมีเวลาอีก 24 ชั่วโมงในการตอบกลับข้อความ

ส่วนตัวคิดว่าระบบนี้ดี เพราะดูคัดกรองในระดับหนึ่ง ไม่ใช่ใครก็สามารถส่งข้อความมาหาเราได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ชาวต่างชาติจะนิยมเล่น App นี้มากกว่าคนไทย เพราะนอกจากการใช้เพื่อหาคู่แล้ว ยังสามารถใช้สำหรับการ Networking ได้อีกด้วย

coffee-meets-bagel

3. Coffee Meets Bagel
เป็นอีกหนึ่ง Dating App ที่ก่อตั้งโดยผู้หญิงเช่นกัน ซึ่งเป็นพี่น้อง 3 คน แอพนี้ออกแบบระบบ Algorithm เพื่อคัดกรอง Profile คุณภาพสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ มีระบบที่คล้ายกับ Tinder คือในส่วนที่ถ้าสนใจใครให้ “Like” และถ้าไม่สนใจให้ “Pass” แต่ความต่างคือทุกวันในช่วงบ่าย ฝ่ายหญิงจะได้รับ 6 Bagels ไว้ใช้ในการ Like/Pass โดยระบบ Algorithm ของแอพจะเลือก Profile ที่ดูมีความน่าจะเข้ากันได้สูงมาให้เราเลือก เช่น การศึกษา, ความสนใจ เป็นต้น เมื่อได้รับ Bagels แล้ว สาวๆมีเวลา 24 ชั่วโมงในการตัดสินใจว่าจะชอบหรือผ่าน (Like/Pass) และเมื่อ Like ตรงกัน ทั้งสองฝ่ายจะสามารถเริ่มคุยกันได้ในแอพค่ะ

okcupid

4. OkCupid
เป็นแอพที่ก่อตั้งมาก่อน 3 แอพที่พูดถึงด้านบน นั่นคือตั้งแต่ปี 2004 แต่ก็ยังได้รับความนิยมอยู่จนถึงในปัจจุบัน เพราะระบบมีการพัฒนา Features เพื่อให้สู้กับคู่แข่งใหม่ๆ ได้ ซึ่งแน่นอนคือระบบ Swipe Right/Left ซึ่งคล้ายกับ Tinder โดยในแอพนี้ระบบนี้จะเรียกว่า “DoubleTake” แต่นอกจากการ Swipe Right/Left แล้ว คุณยังสามารถ Search ค้นหาโปรไฟล์ตาม Filter ที่เรากำหนดไว้อีกด้วย เช่น อายุ, เชื้อชาติ, สิ่งที่มองหาในความสัมพันธ์ เป็นต้น

การจะเริ่มบทสนทนากับใครได้นั้นผู้ใช้งานต้องกด “Like” คนนั้นก่อนจึงจะสามารถส่งข้อความไปหาได้ แต่ผู้ใช้งานจะไม่เห็น Profile ของคนนั้น และเขาจะยังไม่เห็น Profile ของเราเช่นกันจนกว่าเขาจะ “Like” เรากลับ เราสามารถส่งข้อความแรกไปให้อีกฝ่ายแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และเราจะเห็นข้อความที่เราส่งก็ต่อเมื่ออีกฝ่ายตอบกลับ

นอกจากนี้ระบบ Algorithm ของ OkCupid ขึ้นอยู่กับ Quiz ที่เราทำ มีคำถามมากมายหลายหมวดให้เราทำในแอพ นั่นหมายความว่ายิ่งเราตอบคำถามมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะเจอคนที่จะ Match กับเราได้ก็จะมีเปอร์เซ็นต์สูงขึ้น

facebook-dating

5. Facebook Dating
เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับ App หาคู่ที่ทุกคนน่าจะคุ้นเคยกับ Platform นี้ และเป็นน้องใหม่สุดในวงการเพราะเพิ่ง Launch เมื่อปลายปี 2019
สำหรับ Facebook Dating ใครที่สนใจใช้จะต้อง Activate App นี้ ก่อน หลังจากนั้นเราต้องสร้าง Profile สำหรับใช้ Dating ขึ้นมาใหม่ โดย Facebook จะใช้แค่ชื่อและอายุจาก Profile หลักของเราเท่านั้น และจะไม่มีการโพสต์อะไรที่มารบกวนกับFacebook หลักของคุณได้

เมื่อสร้างโปรไฟล์แล้ว คุณสามารถเลือกรูปที่อยู่ในโปรไฟล์ Facebook หลักได้เลย และจากนั้นทำ Personality Quiz  ประมาณ 20 ข้อ เพื่อให้ตัวระบบรู้จักตัวตนของคุณดีขึ้นเพื่อการเลือก Match โปรไฟล์ที่มีคุณภาพให้คุณ

แอพนี้จะไม่มีระบบ Swipe Right/Left แต่ระบบจะแนะนำ Profile ของคนอื่นให้คุณเอง สำหรับ Features พิเศษของแอพนี้คือผู้ใช้งานสามารถเลือกให้ระบบคัดกรองโปรไฟล์เพื่อนใน Facebook หรือ Instagram ของคุณออกไปได้ หรือถ้าคุณแอบชอบใครใน Facebook หรือ Instagram ของคุณอยู่ คุณสามารถเลือกคนนั้นเป็น Secret Crush ของคุณได้ แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะ Facebook Dating จะไม่บอกคนนั้นว่าเขา/เธอเป็น Secret Crush ของคุณจนกว่าคนนั้นจะมีแอพนี้และเลือกคุณเป็น Secret Crush เช่นกัน

แล้วแอพไหนล่ะที่เหมาะกับเรา?
ความจริงแล้ว UNBOX BKK แนะนำว่าให้ลองใช้ทุก App เพราะเราไม่รู้ว่าคนที่เราจะเจอบน App ในแต่ละช่วงเวลาจะเป็นใครบ้าง เมื่อเราได้ลองใช้แล้ว เราจะรู้ว่าเราชอบวิธีการใช้งานของ App ใด และเราชอบลักษณะผู้คนที่เราได้พบเจอใน App ใดมากกว่ากัน เมื่อนั้นเราจะสามารถเลือก App หาคู่ที่เราชอบใช้มากที่สุดได้

มารยาทพื้นฐานในการใช้ App หาคู่

dating-app-101

  1. ใช้รูปที่ดีที่สุดของเรา และเป็นรูปที่ไม่ควรเกิน 1 ปี
  2. ถามคนที่เรา Match ด้วยเมื่อมีโอกาสว่าเขาใช้ App นี้มีจุดประสงค์หลักคืออะไร เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลากับคนที่มีความต้องการไม่ตรงกัน
  3. ให้เริ่มทักด้วยคำชม แต่…ให้ชมอะไรก็ได้ที่ไม่ใช้รูปลักษณ์ภายนอก เพื่อให้เราดูไม่ตื้นเขินจนเกินไป ถึงแม้กว่าเราจะสนใจคนนั้นที่หน้าตาก็เถอะ
  4. ถ้าได้ไปเดทกันครั้งแรก แนะนำให้หากิจกรรมที่เปิดโอกาสได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น เช่น ไม่ควรนัดไปดูหนัง เพราะคุณจะไม่ได้คุยกัน หรือไม่ควรนัดไปเที่ยวกลางคืน เพราะดูมีเจตนาแอบแฝง และอาจไม่ปลอดภัยสำหรับการพบกันครั้งแรก
  5. อย่าคุยแล้วหาย! จริงอยู่ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่พยายามตอบข้อความทุกอันที่ได้รับ แม้จะเป็นข้อความสั้น ๆ ก็ตาม ใจเขาใจเรา ถ้าเราไม่ชอบให้คนคุยแล้วหาย เราก็ไม่ควรทำใส่ผู้อื่นเช่นกัน เว้นเสียจากว่าคนคนนั้นคุย หรือปฏิบัติกับเราไม่ดี ไม่ให้เกียรติ ซึ่งถ้าเป็นกรณีนี้ นอกจากเราจะไม่ตอบได้แล้ว เรายังสามารถ Block Profile นั้นๆ ได้อีกด้วย ทุกแอพมี Feature นี้
  6. อย่าดูถูก หรือพูดจาไม่ดี ถ้าเราไม่ชอบ ไม่สนใจโปรไฟล์คนนั้นแล้ว แค่บอกปฏิเสธเรียบ ๆ หรือแค่บล็อคไป คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ อย่าสร้างศัตรูถ้าไม่จำเป็น
  7. อย่ารีบชวนออกมาเจอตัวกันตั้งแต่ครั้งแรกที่คุย เพราะดูเหมือนมีจุดประสงค์อื่นมากกว่า
  8. จริงอยู่ การใช้แอพทำให้เรามีโอกาสเลือก แต่อย่า Swipe Right ทุกโปรไฟล์ที่เห็น ให้ปัดขวาเฉพาะคนที่มีโปรไฟล์ที่เราสนใจจริง ๆ เท่านั้น
  9. อย่าใช้ App หาคู่ ถ้าต้องการหาแค่เพื่อนใหม่ เพราะทุกคนที่ใช้ App หาคู่ แม้มีจุดประสงค์ต่างกัน แต่ไม่ใช่เพื่อหา “เพื่อน” แน่นอน
  10. หลังจากคุยกับใครสักพักและคิดว่าดูเข้ากันได้ดี ไม่เสียหายถ้าคุณจะเป็นฝ่ายเริ่มชวนอีกฝ่ายเพื่อมาออกเดทกันครั้งแรก ไม่ว่าจะฝ่ายหญิงหรือฝ่ายชายก็ตาม

15 สัญญาณเตือน เพื่อหลีกเลี่ยงความอันตรายทุกรูปแบบของการใช้ App หาคู่
แน่นอนค่ะ อีกคำถามที่ทุกคนคิด คงเป็นเรื่องอื่นไปไม่ได้นอกจากคำถามที่ว่า การใช้ Dating App แบบนี้เป็นอันตรายหรือไม่ ลองอ่าน 15 ข้อนี้ดูและจำให้ขึ้นใจค่ะ

  1. คนคนนั้นไม่มีโปรไฟล์ Social Media เลย ถ้าคนเราสามารถสมัครโปรไฟล์ใน Dating app ได้ แต่ไม่มี Facebook, Instagram และอื่น ๆ เลย แบบนี้มันน่าคิดนะคะ ว่าที่จริงแล้วเขากำลังหลบซ่อนอะไรอยู่หรือไม่
  2. รูปแบบการส่งข้อความที่ไม่สม่ำเสมอ บางครั้งตอบทันที แต่บางครั้งหายไปเลยเกือบอาทิตย์ และอยู่ ๆ ก็ตอบข้อความกลับมาอีกทีตอนตี 4 ถ้าเจอรูปแบบการส่งข้อความแบบนี้บอกตรง ๆ ค่ะว่าเสียสุขภาพจิตเรานะคะ ให้ลดความสนใจคนนี้ไปเลย ไม่ว่าเราจะสนใจเขามากแค่ไหนก็ตาม
  3. อยู่ๆ ก็ส่งข้อความมาเหมือนเป็นข้อความสำหรับคนอื่น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ขอให้ลดความสนใจคนนั้นไปค่ะ
  4. คุณได้รับข้อความติดๆ กันเป็น 10 ข้อความหลังจากคุณไม่ได้ตอบข้อความเขาทันที นี่คือ Red Flag เลย ขอให้หลีกห่าง
  5. เวลาถามเรื่องส่วนตัวและเขาหลีกเลี่ยงที่จะตอบ แน่นอนว่าคุณต้องคุยกันมาในระดับหนึ่งก่อนที่จะเริ่มถามคำถามที่เป็นเรื่องส่วนตัว และถ้าเขาหลีกเลี่ยงให้เริ่มเอะใจไว้ค่ะว่าเพราะอะไร แต่ต้องดูคำถามเราด้วยนะคะว่าละลาบละล้วงเกินไปรึเปล่า
  6. เขาสามารถเปลี่ยนทุกเรื่องที่คุยให้กลายเป็นเรื่องบนเตียงได้ อันนี้ชัดเจนนะคะว่าเขาต้องการอะไร ถ้าเราไม่ชอบก็ตีตัวออกห่างเลยค่ะ
  7. นัดกันแล้วยกเลิกวินาทีสุดท้าย ใช่ค่ะ คนเราสามารถมีเรื่องด่วนได้ แต่ว่าถ้าเขาทำแบบนี้มากกว่า 1 ครั้ง คุณควรตีตัวออกห่างทันทีค่ะ
  8. คนที่พูดแต่เรื่องของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งชอบโอ้อวด และไม่พยายามอยากจะทำความรู้จักเราเลย ลองคิดดูเอาเองนะคะว่าคุณจะอยากคุยกับคนแบบนี้ต่อไปหรือไม่
  9. คนที่ส่งรูปไม่พึงประสงค์มาให้คุณ คิดเอาเองเช่นกันค่ะว่า คุณควรจะคุยกับคนนี้ต่อหรือไม่
  10. เริ่มคุยกันไม่ทันไรก็เริ่มเรียกเราว่า ที่รัก หรือ Baby แบบนี้ก็มาแรงเกินค่ะ ไม่ไหว ถอยด่วน
  11. ในไอเดียของการไปเดทกัน เขามักจะหาโอกาสสื่อถึงเรื่องบนเตียงไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เช่น กินข้าวเสร็จ แล้วไปบ้านเขาต่อมั้ย ถ้าคุณเป็นผู้หญิงแนะนำว่าให้ใช้วิจารญาณอย่างหนักค่ะ
  12. เวลาถามว่าเขาทำอาชีพอะไร เขามักหลีกเลี่ยงไม่ตอบให้ชัดเจน พูดวกไปวนมา เช่น บางคนอาจจะบอกว่าตัวเองทำอาชีพที่สวยหรู ฟังดูมีฐานะ แต่ไม่สามารถสื่อสารอย่างชัดเจนได้ว่าทำอะไรกันแน่ ลองคิดดูว่าเขาอาจจะทำอะไรที่ไม่ถูกกฎหมาย หรือไม่ก็เขากำลังโกหกอยู่ค่ะ
  13. หลังจากคุณคุยกันสักพัก และได้ไปเดทกันแล้ว 2-3 ครั้ง ถ้าเขาไม่ยอมให้คุณมาเจอแถวที่เขาอยู่ น่าคิดค่ะว่า เขากำลังปิดบังอะไรอยู่ กลัวใครเห็นหรือเปล่า หรือไม่ก็เขาไม่ได้อยากสานสัมพันธ์กับคุณไปมากกว่านี้
  14. ใน Profile ของเขามีรูปภาพแค่รูปเดียว หรือรูปที่เห็นหน้าไม่ชัดสักรูป เขาอาจเป็นคนไม่มีความมั่นใจในตัวเอง หรือกำลังปิดบังอะไร และเป็นไปได้ว่าเขาใช้รูปคนอื่น เพราะเป็น Profile ปลอม
  15. เขาไม่เคยอยากไปเดทกับคุณเลย หากคุณคุยกันมาสักพัก แต่ว่าเขาไม่เคยขอนัดคุณไปเดท หรือเวลาคุณชวนเขาไปเดท เขาก็หลีกเลี่ยงตลอด น่าคิดว่าเขาอาจต้องการแค่คนคุยออนไลน์เพื่อให้ไม่เหงา หรือไม่ก็เขามีอะไรปิดบังอยู่ ลองคิดตามค่ะ เวลาคนเราคุยกับใครสักคนและถ้าไม่ต้องการไปเดทกับคนนั้น คุณหรือเขาก็น่าจะเลิกคุยกันไปแล้ว แต่ถ้าเขายังคงคุยกับคุณอยู่เรื่อย ๆ โดยไม่เคยอยากไปออกเดทกันเลย แบบนี้ผิดปกติ 100% ค่ะ

dating-app-summary

สุดท้ายแล้ว ถ้าเจอพฤติกรรมแปลก ๆ หรือสัญญาณอันตรายต่าง ๆ อย่านิ่งนอนใจค่ะ ขอให้ทุกคนอย่าลืมจุดประสงค์ของการใช้ App หาคู่ของแต่ละคน และให้ใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลให้มาก ๆ อย่าลืมว่า…เคสที่ไม่สมหวังนั้นมีแน่นอน แต่เคสที่ประสบความสำเร็จถึงขั้นแต่งงาน สร้างครอบครัวก็มีเช่นกันค่ะ อย่างไรก็ตาม UNBOX BKK ขอให้ทุกคนโชคดีและสมหวังกับสิ่งที่ต้องการนะคะ 😊

Contributor

Ploy Jieampanich

Tech Savvy, Web Designer, Digital Marketer, Movies and Music Lover.

Contributor

Share this post with your friends

More Articles

blog
Karn Triamsiriworakul

มาทำ CRM กันเถอะ

ความผูกพัน เป็นสิ่งที่มีพลังมาก ทั้งโน้มน้าวใจและผลักดันผู้คน อย่างที่เราคงเคยเห็นว่าคนเรายอมลงแรงหรือยอมเสียสละอะไรต่อมิอะไรได้มากมายเพื่อสิ่งที่เราผูกพัน ความผูกพันไม่ได้จำกัดเพียงแค่ระหว่างคนกับคนด้วยกัน เรายังผูกพันกับงานอดิเรก กับบริษัท หรือแม้แต่กับแบรนด์ที่เราใช้สินค้าหรือบริการของพวกเขาได้ด้วย CRM (Customer

Read More »
blog
Jinsiree Palakawongsa Na Ayudthaya

Virtual Experiential Marketing (VEM) 101 ใครยังไม่รู้จักเชิญทางนี้

ใครที่ได้เรียนวิชาทางด้านการสื่อสารการตลาด คงคุ้นเคยกับคำว่า Experiential Marketing หรือแปลเป็นภาษาไทยได้ว่าการตลาดเชิงประสบการณ์ โดยมีความหมายว่าเป็นการตลาดรูปแบบหนึ่ง ที่มุ่งเน้นให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ที่น่าจดจำผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความทรงจำ อารมณ์

Read More »
Comodo SSL