3 หลักการผลิตคอนเทนต์ ‘ขายของ’ ยังไงให้ปัง และคนไม่รังเกียจ

เมื่อออกตัวว่าโพสต์ที่คุณกำลังจะได้อ่านเป็นช่วงโฆษณานะ หรือคลิปที่คุณกำลังจะได้ดูต่อไปนี้ ต้องการที่จะขายของนะ ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะดึงตัวเองออกมาจากการเสพคอนเทนต์นั้นในทันที เพราะตามธรรมชาติแล้ว ไม่ต่างจากการเสนอขายประกันฯ เมื่อคนรู้เท่าทันว่าตนกำลังจะกลายเป็นกับดักของการขายเมื่อไร มากกว่า 80% จะบอกปัดเอาไว้ก่อน ทั้ง ๆที่ยังไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าสิ่งที่กำลังจะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงนั้นคืออะไร

เทคนิคในการวางกลยุทธ์เพื่อนำเสนอสินค้าผ่านการทำการตลาดรูปแบบต่าง ๆ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการสร้างแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งหนึ่งในอาวุธชิ้นเยี่ยมที่นิยมใช้กันในปัจจุบันก็คือ Content Marketing ในบทความนี้ ทีมงาน UNBOX BKK เลยขอหยิบเอา 3 เทคนิคที่จะช่วยให้คุณในฐานะ Marketers สามารถผลิตคอนเทนต์ที่ตรงจุด ขายของได้แบบแนบเนียน เป็นประเภทคอนเทนต์ที่คนไม่เปิดผ่านแต่เต็มใจที่จะเสพ!

Technique 01: อ่านใจผู้บริโภค

การวางแพลนคอนเทนต์ที่ดีไม่ใช่การคิดจากฝั่งตัวเองว่าอยากจะขายอะไร แต่ในทางกลับกัน สิ่งที่ควรนำมาเป็นพื้นฐานของคิดคอนเทนต์คือคำถามที่ว่า “คนดู/คนอ่านอยากเห็นอะไร”


(เครื่องสำอาง Shiseido ใช้วิธีการขายรองพื้นและคุชชั่น ผ่านคุณแอม YouTuber ช่อง AmyKitiya)

เบนซ์ ธนชาติ หัวคิดหลักของ Salmon House โปรดักชั่นเฮาส์ที่อยู่เบื้องหลังผลงานโฆษณาไวรัลหลายชิ้น พูดเอาไว้ในสัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Marketing Oops ว่า “ต้องพยายามรู้ให้ได้ก่อนว่า Insight คนดูคืออะไร พอเรารู้เค้าแล้วไปพูดกับเค้า มันเหมือนเป็นเพื่อน แต่ถ้าเราไม่รู้ว่าเค้าคือใคร ไม่รู้ว่าเค้าชอบดูอะไรกันแน่ ไม่รู้ว่าอะไรโดนใจเค้า เวลาไปพูดกับเค้ามันก็จะเหมือนไปขายตรงเค้าแหละ”

ถ้าเริ่มต้นด้วยการ Hard Sale หรือขายของอย่างเดียว คนจะเปลี่ยนหนีแทบจะในทันทีตั้งแต่ที่พวกเขายังไม่ทันจะได้เปิดใจรับชม แต่ถ้าเมื่อไรที่เราเริ่มต้นด้วยการหยอดสิ่งที่พวกเขาสนใจ เรียก Attention ด้วยการเสิร์ฟสิ่งที่คนชอบดูหรือชอบอ่าน แล้วเติมสินค้าเข้าไปอย่างแนบเนียน คอนเทนต์นั้นแหละที่จะสามารถพัฒนากลายเป็นไวรัลและชูตัวสินค้าให้เป็นที่จดจำได้

Technique 02: ความรู้ X ความบันเทิง

คำถามที่เกิดขึ้นต่อมาก็คือ “จะรู้ได้ยังไงล่ะว่าคนอยากจะเสพคอนเทนต์แบบไหน”

นอกจากการทำ Research เพื่อที่จะได้รู้จัก Target Customer ของสินค้านั้นๆ ให้ดีพอแล้ว หลักการง่าย ๆ ของการสร้างคอนเทนต์ที่โดนใจคนหมู่มากมีอยู่แค่ 2 ประเภทหลักๆ ก็คือ 1. ปั้นคอนเทนต์ที่ให้ความรู้ (Educate) หรือ 2. ออกแบบคอนเทนต์ที่ให้ความบันเทิง (Entertainment)

คอนเทนต์ประเภทแรกตอบโจทย์กลุ่ม Potential Customers ที่ต้องการหาความรู้เกี่ยวกับหัวข้อนั้นๆ และนำมาสู่การแชร์ต่อๆ กัน เพราะ ‘ประโยชน์’ ที่คอนเทนต์นั้นสามารถให้กับผู้รับสารได้ ในทางกลับกัน คอนเทนต์ที่ให้ความบันเทิงอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายสินค้าหรือบริการโดยตรง แต่ด้วย Mood & Tone ที่นำมาด้วยความตลกและความเป็นกันเอง คอนเทนต์ประเภทนี้จึงเข้าถึงคนกลุ่มใหญ่ได้มากกว่า กว้างกว่า มี Exposure ของคอนเทนต์ที่แพร่หลายกว่า


(YouTube ช่องโคตรคูล ดำเนินรายการโดยคุณโอ๊ต-ปราโมทย์ ปราทาน เป็นที่ทราบกันว่ารายการนี้ทำมาเพื่อความบันเทิงอย่างแน่นอน โดยคลิปวีดีโอในช่องนี้มียอดชมไม่ต่ำกว่าคลิปละ 100,000)

(AIS ประเทศไทย ใช้ทวิตเตอร์เป็นสื่อกลางในการทำ Content ที่เลือกมาแล้วว่าเจาะกลุ่มลูกค้าอายุ 18-24 ปี)

การแพลนรูปแบบของคอนเทนต์ไม่มีรูปแบบที่ตายตัว อาจเป็นคอนเทนต์ประเภทที่ 1 หรือ 2 หรือทั้งสองอย่างผสมกันก็ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือกลุ่ม Target ของแบรนด์กับสินค้า/บริการที่ต้องการนำเสนอว่าเหมาะสมกับคอนเทนต์ที่บอกเล่าเรื่องราวผ่านวิธีไหนมากกว่ากัน

Technique 03: เลือกวิธีการสื่อสารที่ใช่

รู้จัก Insight ของกลุ่มเป้าหมายแล้ว เลือกวิธีการแพลนคอนเทนต์แล้ว อีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญไม่แพ้กันคือการเลือก Mean หรือสื่อที่จะใช้ในการสื่อสารที่ถูกต้อง

ถึงแม้ว่าทุกคนจะมุ่งเน้นการ Go Viral ทำวีดีโอที่มียอดดูยอดแชร์เป็นหลักล้าน แต่พึงระลึกไว้เสมอว่าคอนเทนต์วีดีโออาจไม่ใช่สำหรับทุกคน ยกตัวอย่างสถานการณ์เช่น หากคุณต้องการทำ Content Marketing ที่แฝงขายระบบไอที สินค้าหมวดวิศวกรรม หรือไอเทมที่ค่อนไปทาง Technical เฉพาะกลุ่มมากๆ การสื่อสารผ่าน Infographic หรือบทความที่ให้ข้อมูลเชิงลึกอาจให้ผลดีกว่า แต่หากต้องการทำคอนเทนต์เพื่อพรีเซนต์สินค้าจำพวกเครื่องสำอาง การครีเอทวีดีโอ โชว์ How To สั้นๆ อาจดึงดูดให้คนสนใจได้มากกว่าคอนเทนต์ประเภทบทความ เป็นต้น

สรุปสั้นๆ ของ 3 เทคนิคที่ได้แชร์กันไปในบทความนี้ ง่ายที่สุดคือการลองสวมบทบาทเป็นผู้บริโภคแล้วลองพิจารณาดูว่าคอนเทนต์ประเภทไหนที่เราจะเต็มใจอยากกดดูหรือกดอ่าน ในขณะเดียวกันก็นำข้อมูลตรงนี้มาแมตช์กับวิธีการเล่าเรื่องและวิธีการสื่อสารที่เหมาะสมกับสินค้าและกลุ่มเป้าหมาย

เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถออกแบบคอนเทนต์ (เนียน) ขายของที่ถูกใจว่าที่คนซื้อและ Reach ไปถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ได้แล้ว!

Contributor

Share this post with your friends

More Articles

blog
Jinsiree Palakawongsa Na Ayudthaya

ตามหาความดื่มด่ำในการทำงาน “Flow State of Mind”

เวลาคุณทำงาน หรือทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเล่นดนตรี เล่นกีฬา หรือทำงานอดิเรกอื่นๆ คุณเคยมีความรู้สึกเหล่านี้หรือไม่ ดื่มด่ำกับกิจกรรมนั้นๆ และมีสมาธิมาก จนเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทำได้เรื่อยๆ

Read More »
Uncategorized
Nam Nunbhakdi

Key Takeaways from Itaewon Class: เราได้ความรู้เรื่องธุรกิจอะไรจากซีรี่ส์เรื่องอิแทวอน คลาส?

จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ สำหรับซีรี่ส์เรื่อง Itaewon Class หรือชื่อไทยว่า ธุรกิจปิดเกมส์แค้น ซึ่งเป็นซีรี่ส์เกาหลียอดนิยมจากที่กระแสตอบรับดีสุดๆของ Netflix ไปเรียบร้อยในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยเรื่องนี้มีต้นกำเนิดมาจากการ์ตูนที่อยู่บน

Read More »
blog
Jinsiree Palakawongsa Na Ayudthaya

Check List เช็คให้ดีก่อนทำ Virtual Event

ผ่านเวลามาร่วมปีกว่าๆที่วงการการตลาดประเทศไทยเริ่มใช้ Virtual Event สำหรับบริษัทของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นงานประชุม งานสัมมนา งานเปิดตัวสินค้า หรืองานแถลงข่าว ทาง UNBOX

Read More »
Comodo SSL